You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.

กำแพงเพชร-สมาชิกกองทุนฯ กว่า 300 คน ปิดล้อม ธกส. บึงสามัคคี ขอความชัดเจน หลัง Mou แล้ว แต่ยังฟ้องสมาชิก ซึ่งเป็นมติ ครม.
อาชญากรรม

กำแพงเพชร-สมาชิกกองทุนฯ กว่า 300 คน ปิดล้อม ธกส. บึงสามัคคี ขอความชัดเจน หลัง Mou แล้ว แต่ยังฟ้องสมาชิก ซึ่งเป็นมติ ครม.


เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 ก.พ.67 สมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จากกลุ่มบ้านหนองเต่าทอง หมู่ 12 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร จำนวน 300 คน เดินทางมาที่ ธกส.สาขาบึงสามัคคี อ.บึงสามัคคี อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เพื่อขอความชัดเจนจากผู้จัดการสาขา ธกส. หลังจากมีสมาชิกของกลุ่มฯรายหนึ่ง ถูกฟ้องดำเนินคดีจากเงินทึ่กู้ ธกส.ไป กว่า 2,615,000 บาท (รวมดอกเบี้ย) โดยมีหมายเรียกให้ขึ้นศาลในวันที่ 4 มีนาคม 2567 ที่จะถึงนี้ โดย “น.ส.วราพร ศิริพันธ์” อายุ 62 ปี (เป็นเกษตรกรชาวไร่อ้อยผู้กู้เงินจาก ธกส.สาขาคลองขลุง) เป็นสมาชิกกองทุนฯ 3 ปี ที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ (อยู่บ้านเลขที่ 58-59 ม.2 ต.วังแขม อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร) ปัจจุบันเดินทางไปทำงานอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสาเหตุที่มีการมาร้องขอความชัดเจนครั้งนี้ เนื่องจากสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ที่มีสาขาทั่วประเทศ ได้ตกลงทำ Mou (เมื่อวันที่ 27 ก.ค.65) ซื้อหนี้จากธนาคารของรัฐและเอกชนมาบริหารจัดการในกองทุน ตามมติคณะรัฐมนตรี (เมื่อ 22 มี.ค.65) เพื่อลดภาระดอกเบี้ยช่วยเหลือเกษตรกรที่เป็นสมาชิก แต่อยู่ๆ ธนาคาร ธกส. ทำไมถึงไม่แจ้งให้กองทุนฟื้นฟูฯ ทราบเพื่อจะได้ดำเนินการแก้ไข เพราะอยู่ในเงินไข Mou ที่ทำร่วมกัน โดยสมาชิกรายนี้ที่ถูกฟ้องดำเนินคดีเป็นรายแรก ซึ่งกลุ่มเกษตรกรมองว่าถูกกลั่นแกล้ง เพราะหากจะผิดสัญญาการชำระเงินก็จะต้องมีระยะเวลา 5 ปี แต่นี่ระยะเวลาผ่านไปเพียง 3 ปี เท่านั้น อีกอย่างคือทำไมถึงไม่แจ้งกองทุนฟื้นฟูเพื่อให้เข้ามาแก้ไข อยู่ๆก็มาฟ้องสมาชิกดำเนินคดีแบบนี้ จึงถือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมารวมตัวกันวันนี้



ขณะที่สถานการณ์เริ่มตึงเครียดมากขึ้นหลังจากกลุ่มแกนนำของกองทุนฟื้นฟูฯ "นางจำนงจิต คล่องแคล่ว" อายุ 60 ปี ประธานองค์กรเกษตรกรบ้านหนองเต่าทองหมู่ 12 และรองประธานอนุกรรมการคนที่ 2 สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดกำแพงเพชร ได้ใช้เครื่องเสียงพูดเรียกให้ “นายกิตติศักดิ์ แสงอะโณ” ผจก.ธกส.สาขาบึงสามัคคี (อดีตรองผู้จัดการ ธกส.สาขาคลองขลุง ต้นเรื่อง) ให้ออกมาชี้แจงว่าเกิดจากสาเหตุใด หากไม่ออกมาจะขอปักหลักอยู่จุดนี้และจะบุกเข้าไปข้างในสำนักงาน ขณะที่ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บึงสามัคคี “พ.ต.ท.กรพิทักษ์ กุศล“ รอง ผกก.ป.สภ.บึงสามัคคี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 10 นาย เข้ามาพูดคุยเจราให้ส่งตัวแทนเข้าไปพูดคุย ซึ่งช่วงแรกไม่เป็นผล ชาวบ้านยืนยันจะเข้าไปด้านใน โดยเจรจากันนานนับชั่วโมง จึงยอมส่งตัวแทนเข้าไปพูดคุยในสำนักงาน จำนวน 10 คน โดยหลังจากเข้าไปพูดคุยกันนานกว่า 1 ชั่วโมง ก็ได้ข้อยุติในกรณีดังกล่าว โดยทางธนาคารได้ให้ข้อมูลว่าก่อนที่จะมีการดำเนินการฟ้องร้องดังกล่าวได้มีการติดตามทวงถามหลายครั้ง และเข้าไปพูดคุยที่บ้านของลูกหนี้รายนี้ แต่ก็ไม่พบตัวซึ่งได้ข้อมูลจากพี่ชายลูกหนี้ว่า “น.ส.วราพร” เดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ โดยทางธนาคารยืนยันว่าดำเนินการไปตามกฏหมายทึกขั้นตอน ในส่วนของการสื่อสารกับทางกองทุนฟื้นฟูฯ นั้นเป็นอีกกรณีหนึ่งซึ่งไม่แน่ชัดว่าผิดพลาดจุดใด จากนี้ไปขอให้รวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อประสานไปยัง ธกส. สำนักงานใหญ่ เพื่อพูดคุยหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน โดยทาง ธกส.ไม่ได้มีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งเกษตรกรแต่อย่างใด หลังจากพูดคุยไกล่เกลี่ยกันแล้วสมาชิกกองทุนฯ กว่า 300 คนก็ได้เดินทางแยกย้ายกันกลับ สัมภาษณ์ "นางจำนงจิต คล่องแคล่ว" อายุ 60 ปี ประธานองค์กรเกษตรกรบ้านหนองเต่าทองหมู่ 12 และรองประธานอนุกรรมการคนที่ 2 สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดกำแพงเพชร เล่าว่า “ทาง “นายกิตติศักดิ์ แสงอะโณ” ผจก.ธกส.สาขาบึงสามัคคี (อดีตรองผู้จัดการ ธกส.สาขาคลองขลุง ต้นเรื่อง) ได้ทำเรื่องฟ้องสมาชิกกองทุน โดยไม่มีการบอกกล่าวกับกองทุนฟื้นฟูฯ สาขากำแพงเพชร ใดๆเลย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการทำ Mou ร่วมกันแล้ว โดยทางธนาคารอ้างว่าได้มีการแจ้งไปยังพี่ชายของ น.ส.วราพร ซึ่งป่วยติดเตียงเป็นโรคอัลไซเมอร์ โดยจู่ๆก็ได้หมายฟ้องดำเนินคดี จึงมองว่าเป็นการทำผิดเงื่อนไขที่ทำไว้กับกองทุนฯ Mou ตามมติคณะรัฐมนตรี โดยผลการไกล่เกลี่ยวันนี้ เป็นที่น่าพึงพอใจโดยจากนี้ไปจะประสานไปยัง “น.ส.วราพร” สมาชิกกองทุนฯ ที่อยู่ต่างประเทศเพื่อมอบอำนาจให้ดำเนินการแก้ไขต่อไป โดยทางกองทุนฯ จะดำเนินการซื้อหนี้จาก ธกส. เพื่อมาจัดการเพื่อไม่ให้ทรัพย์สินถูกขายทอดตลาด



 “นายกิตติศักดิ์ แสงอะโณ” ผจก.ธกส.สาขาบึงสามัคคี (อดีตรองผู้จัดการ ธกส.สาขาคลองขลุง ต้นเรื่อง) กล่าวว่า ”หลังพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยวันนี้ ได้แนะนำข้อมูลขั้นตอนการดำเนินงานของ ธกส. ซึ่งลูกหนี้รายนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการเสนอฟ้องดำเนินคดี แต่แนวทางการยืดทรัพย์และอื่นๆมีระยะเวลาอีก 10 ปี โดยลูกหนี้รายนี้ยังคงอยู่ต่างประเทศ โดยจากนี้ทางองค์กรกองทุนฟื้นฟูฯ ก็จะต้องติดต่อเพื่อมอบอำนาจให้ดำเนินการแก้ไขตามกฎหมายต่อไป ซึ่งลูกหนี้ก็จะต้องยืนยันว่าจะให้กองทุนฟื้นฟูจัดการหนี้ก้อนนี้ตามขั้นตอน ในส่วนของตนเองไม่มีอำนาจดำเนินการแก้ไขใดๆ ซึ่งจะต้องให้ ธกส.สำนักงานใหญ่ดำเนินการ โดยผลการเจรจาวันนี้ก็จบลงได้ด้วยดี

ข่าว/ภาพนายวิทยา จตุรภาค  สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร

สนับสนุนข่าวโดย


481217






คุณสามารถแบ่งปันเนื้อหานี้!

แสดงความคิดเห็น