You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.

กำแพงเพชร-ชาวบ้านเร่งเก็บของออกจากบ้าน หลังน้ำปิงไหลแรงเซาะตลิ่งพังถึงตัวบ้านหวั่นถูกพัดไปกับน้ำ หน่วยงานเตรียมเร่งทิ้งหินใหญ่เปลี่ยนทิศทางน้ำช่วยกันบรรเทา
อาชญากรรม

กำแพงเพชร-ชาวบ้านเร่งเก็บของออกจากบ้าน หลังน้ำปิงไหลแรงเซาะตลิ่งพังถึงตัวบ้านหวั่นถูกพัดไปกับน้ำ หน่วยงานเตรียมเร่งทิ้งหินใหญ่เปลี่ยนทิศทางน้ำช่วยกันบรรเทา

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 3 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ริมตลิ่งแม่น้ำปิง พื้นที่ ม.5 บ้านพิกุลทอง ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร โดยบริเวณดังกล่าวได้ถูกน้ำในแม่น้ำปิง กัดเซาะริมตลิ่งจนพังเสียหายเกือบจะถึงบ้านเรือนของประชาชนแล้ว โดยจากภาพพบว่าถนนคอนกรีตที่ใช้สัญจรไปมาก็พังเสียหายจนใช้การไม่ได้ ซึ่งขณะนี้มวลน้ำในภาคเหนือและพื้นที่จากฝนตกต่อเนื่องได้ไหลลงแม่น้ำปิงไหลเชี่ยวแรงและเพิ่มปริมาณสูงขึ้นทำให้ตลิ่งที่ถูกน้ำเซาะอยู่เดิมทำเสียหาย ระยะทางกว่า 100 เมตร โดยชาวบ้านได้รีบช่วยกันขนของออกจากภายในบ้านก่อนที่ตลิ่งจะพังและบ้านถล่มไหลลงไปกับสายน้ำ โดยบริเวณดังกล่าวมีนักเรียนประชาชนที่อยู่ใกล้ตลิ่งเกือบ 10 หลังซึ่งหากตลิ่งพังจากกระแสน้ำก็คงจะต้องอพยพหนีออกเพื่อความปลอดภัย


ขณะที่วันนี้มี “นายสดุดี พุทธัง” นายอำเภอคลองขลุง ,นายวิโรจน์ ชาตะนาวิน นายก อบต.คลองขลุง ,พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมผู้นำในพื้นที่ได้ลงติดตามการทรุดตัวของตลิ่งพร้อมกับประชุมเร่งหาแนวทางแก้ไขโดยด่วนไม่ให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมตลิ่งพังลงไปกับน้ำ สัมภาษณ์ ”น.ส.ประเจิด สุขมาก“ อายุ 67 ปี เจ้าของบ้าน (อยู่บ้านเลขที่ 16 ม.5 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร) เล่าว่า ”ตนเองกลัวว่าบ้านที่อยู่ริมตลิ่งจะพังลงไปกับน้ำ ซึ่งเมื่อช่วงประมาณ 04.00 น. เกิดการทรุดตัวของตลิ่งไปเยอะมาก ซึ่งเดิมทีก็พังอยู่แล้วอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของลูกชายตนเองซึ่งขณะนี้ ลูกชายไปทำงาน ตนและเพื่อนบ้านก็ช่วยกันเร่งเก็บของออกจากบ้าน กลัวว่าแรงไหลของน้ำจะพัดตลิ่งจนบ้านพังตอนไหนไม่รู้ 


นายวิโรจน์ ชาตะนาวิน นายก อบต.คลองขลุง เล่าว่า หลังจากได้รับรายงานจากผู้นำหมู่บ้านเมื่อวานนี้ว่าบริเวณดังกล่าวถูกน้ำกัดเซาะจนตลิ่งพังลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งก่อนหน้าที่มีกอไผ่ขนาดใหญ่เพิ่งจะถูกน้ำพัดไป เริ่มกินบริเวณกว้างจนถึงบ้านเรือนประชาชน โดยเบื้องต้น อบต.คลองขลุง จะใช้ เงินงบกลาง มาช่วยแก้ไขปัญหาโดยน้ำหินขนาดใหญ่มาทำแนวป้องกันไม่ให้ตลิ่งพังจนถึงบ้านประชาชน ซึ่งจะช่วยในการเปลี่ยนทิศทางน้ำไม่ให้กัดเซาะตลิ่งให้พังไปกว่าเดิม โดยจะทำเป็นระยะทาง 30 เมตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนไปก่อน โดยจะเร่งทำเลย ในระหว่างที่รองบประมาณในการก่อสร้างตลอดแนวในปีงบประมาณ 2567 ที่จะถึงนี้ ประมาณ 50 ล้านบาท

ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค  สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร

สนับสนุนข่าวโดย


481217






คุณสามารถแบ่งปันเนื้อหานี้!

แสดงความคิดเห็น