You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.

กำแพงเพชร-เยี่ยงเปรตขอส่วนบุญ มิจฉาชีพส่งสลิปโอนเงินปลอมร่วมบุญสร้างศาลาวัด 1 หมื่นไม่ถึง 10 นาทีทักแชตขอให้โอนเงินคืน 8 พัน แต่วัดไหวตัวทันพบพิรุธอื้อ สุดท้ายบล๊อคเฟสหนี ขณะที่หลายวัดโพสต์แจ้งเตือนภัยเจอมิจฉาชีพรายเดียวกันหลอกลวงเพียบ
อาชญากรรม

กำแพงเพชร-เยี่ยงเปรตขอส่วนบุญ มิจฉาชีพส่งสลิปโอนเงินปลอมร่วมบุญสร้างศาลาวัด 1 หมื่นไม่ถึง 10 นาทีทักแชตขอให้โอนเงินคืน 8 พัน แต่วัดไหวตัวทันพบพิรุธอื้อ สุดท้ายบล๊อคเฟสหนี ขณะที่หลายวัดโพสต์แจ้งเตือนภัยเจอมิจฉาชีพรายเดียวกันหลอกลวงเพียบ


เมื่อวันที่ 28 มี.ค.66 เวลา 13.00 น.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดศรีสุทธาวาส( วังน้ำขาว ) ซึ่งในบริเวณวัดกำลังมีการก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่เนื่องจากที่ศาลาหลังเก่าถูกเพลิงไหม้จนไม่เหลือซาก โดยในวันนี้พระทรรศพล ปุณฺณวโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวร้องเรียนมายังผู้สื่อข่าวภูมิภาคไทยรัฐทีวี ว่าเมื่อเวลาประมาณ 04.30 น.ของวันที่ 28 มี.ค.มีผู้ที่ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “Slam Haripottawekull “ ลักษณะเป็นผู้ชายติดต่อทักแชตมาทางแมสเซ็นเจอร์ ซึ่งเป็นเฟสบุ๊คส่วนตัวของท่านที่ใช้ชื่อว่า” ปุณฺณวโร นามะ “โดยชายคนดังกล่าวเข้ามาแจ้งความประสงค์ว่าจะขอร่วมบุญถวายปัจจัยจำนวนหนึ่งเพื่อสมทบทุนในการสร้างศาลาการเปรียญโดยการวิธีโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของทางวัดซึ่งทางวัดเปิดไว้ให้ญาติโยมได้ร่วมบุญถวายปัจจัยในการสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่เพื่อทดแทนหลังเก่าที่ถูกเพลิงไหม้จนเสียหายทั้งหลังเหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2565 ที่ผ่านมา


ทั้งนี้เมื่อผู้ใช้บัญชีเฟสบุ๊ครายดังกล่าวแจ้งความประสงค์กับทางวัดเสร็จแล้ว ในช่วงเวลาต่อมาได้ส่งสลิปการโอนเงินซึ่งเป็นของบัญชีธนาคารออมสินเข้ามาในบัญชีธนาคารของทางวัดที่เปิดไว้เป็นจำนวนเงิน 1 หมื่นบาทเพื่อเป็นหลักฐานในการโอนเงิน ซึ่งทางวัดโดยพระทรรศพล หรือ “พระอาจารย์ท๊อป”ก็ได้ตอบแชตว่า”อนุโมทนาสาธุ”กับผู้ที่ส่งสลิปการโอนเงินเข้ามาด้วย จากนั้นไม่นานทางผู้ที่ส่งสลิปโอนเงินเข้ามาก็ได้ส่งข้อความเข้ามาว่า” คือว่าท่านครับจริงๆแล้วผมขอความประสงค์รับเงินคืน 8,000 บาทครับ”ซึ่งขณะนั้นทางพระอาจารย์ท๊อป ก็รู้สึกเริ่มสงสัยว่าทำไมโอนเงินมาแล้วจึงจะขอให้โอนเงินคืนไปอีกจึงได้ตอบข้อความกลับไปว่า “ อาตมาต้องให้กรรมการเช็คดูก่อน ซึ่งกรรมการจะเป็นผู้ตรวจสอบบัญชี “ จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ส่งข้อความกลับมาอีกว่า “ตนต้องกราบขอโทษคณะกรรมการด้วยนะครับ “ ทางพระอาจารย์ท๊อปจึงตอบกลับไปว่ากรรมการเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารซึ่งจะให้เขาเช็คสลิปให้เมื่อถูกต้องอย่างไรจะทำการโอนเงินคืนให้” ต่อจากนั้นจึงได้ทำทีส่งข้อความขอชื่อ และบัญชีธนาคารเพื่อที่จะโอนเงินกลับคืนให้ จากนั้นชายคนดังกล่าวจึงได้ส่งเลขบัญชีมาให้ ระบุเป็นธนาคารออมสิน ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า”Chatchanin Ratjinda” พร้อมส่งข้อความมาว่า”เลขบัญชีเดิมครับ” อย่างไรก็ตามทราบว่าก่อนหน้านี้มิจฉาชีพรายดังกล่าวได้ส่งสลิปแสดงการโอนเงิน ไปยังเพจของทางวัดศรีสุทธาวาส-วัดวังน้ำขาว กำแพงเพชร และได้ร้องขอให้โอนเงินจำนวน 8 พันบาทคืนกลับมาให้เช่นเดียวกันกับที่ได้ร้องขอเงินคืนส่งไปยังเฟสบุ๊คส่วนตัวของพระอาจารย์ท๊อป ซึ่งทางแอดมินเพจของทางวัดก็ได้แจ้งให้ทางวัดได้รับทราบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยตลอด และเริ่มสงสัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเวลาในการโอนเงินในสลิประบุเวลาเป็นวันที่ 19 มีนาคม 2566 และเวลาที่โอนเงินเป็นเวลา 16.17 น. ทำไมชายคนดังกล่าวจึงส่งสลิปโอนเงินมาแสดงในวันนี้ช่วง 05.14 น. เพื่อความมั่นใจทางพระอาจารย์ท๊อป ผู้ช่วยเจ้าอาวาส พร้อมคณะกรรมการจึงเดินทางไปธนาคารเพื่อตรวจสอบการโอนเงินเข้ามาอีกครั้ง พร้อมกับตรวจสอบการลงเพจเฟสบุ๊คของทางวัดซึ่งจะมีข้อความขออนุโมทนาบุญให้กับผู้ร่วมบริจาคปัจจัยและทุกครั้งจะมีการโพสต์สลิปโอนเงินของญาติโยม พร้อมลงรูปถ่ายผู้ที่ร่วมบริจาค โดยหลังจากตรวจสอบกับทางธนาคาร และตรวจสอบในเพจเฟสบุ๊คของทางวัดแล้วปรากฏว่า สลิปการโอนเงินเข้ามานั้น วัน และเวลา และจำนวนเงินที่โอนไปตรงกันกับญาติโยมรายหนึ่งที่โอนเงินร่วมทำบุญมาเป็นผู้หญิงรายหนึ่งซึ่งเป็นหลักฐานสลิปการโอนของธนาคารกสิกรไทย แต่ของชายคนดังกล่าวเป็นของธนาคารออมสิน ซึ่งทางวัด และคณะกรรมการมั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นพวกมิจฉาชีพปลอมแปลงสลิปการโอนเงินมาอย่างแน่นอน โดยคาดว่าก่อนหน้านี้จะก๊อปปี้สลิปโอนเงินจากผู้อื่นมา แล้วทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงทั้งรูปแบบสลิปธนาคาร ชื่อ นาสกุล และจำนวนเงิน อย่างแน่นอนทางแอดมินเพจ และ พระอาจารย์ท๊อป ผู้ช่วยเจ้าอาวาสจึงได้ส่งข้อความไปว่ากล่าวตักเตือน และขู่ว่าจะแจ้งความดำเนินคดี



หลังจากนั้นชายเจ้าของเฟสบุ๊คซึ่งน่าจะเป็นมิจฉาชีพได้ไล่ลบข้อความสำคัญต่างๆออกจากช่องแชตและทำการบล๊อคเฟสบุ๊คในทันที ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้เข้าไปตรวจสอบบัญชีเฟสบุ๊คตามชื่อ “Slam Haripottawekull “ ปรากฏว่าบัญชีเฟสบุ๊คดังกล่าวยังไม่ได้ยกเลิกไปแต่อย่างใด แต่มีการลบโพสต์เตือนภัยจากวัดต่างๆออกจากหน้าเฟสบุ๊คของตนเอง จากนั้นทางวัด และคณะกรรมการได้เข้าสำรวจเพจของวัดต่างๆในโซเชี่ยลปรากฏว่ามิจฉาชีพรายเดียวกันนี้ได้ไปหลอกลวงตามวัดต่างๆที่มีการรับบริจาคปัจจัยในลักษณะเดียวกัน และจะขอให้โอนเงินกลับคืนมายังตนทุกเคสโดยการอ้างเหตุผลไปต่างๆนาๆแตกต่างกันออกไป (สัมฯ)พระทรรศพล ปุณฺณวโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดศรีสุทธาวาส(วังน้ำขาว) กล่าวเปิดเผยว่า “เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น.ของวันที่ 26 มีนาคม มีโยมคนหนึ่งทักแชตเข้ามาทั้งเพจของทางวัดและมายังเฟสบุ๊คส่วนตัวของอาตมาพร้อมส่งสลิปโอนเงินเข้ามาจำนวน 1 หมื่นบาทจากธนาคารออมสินมายังบัญชี ธกส.ของทางวัด เสร็จแล้วได้ทักข้อความเข้ามาเพื่อที่จะขอเงินคืนจำนวน 8 พันบาทซึ่งจริงๆแล้วอาตมาไม่รู้จักกับโยมท่านนี้หากรู้จักก็คงจะไม่สงสัยอะไร ด้วยความสงสัยจึงบอกไปว่าขอให้ทางคณะกรรมการของวัดเช็คบัญชีธนาคารก่อน ยอมรับรู้สึกสงสัยเนื่องจากโยมท่านนี้ไม่รู้จักกันมาก่อนเพราะยอดเงินที่บริจาคเข้ามามียอดเงินสูงถึง 1 หมื่นบาทก็รู้สึกสงสัยอยู่ๆมาขอเงินคืน 8 พันบาทซึ่งตอนนั้นยังชั่งใจอยู่ว่าจะใช่ หรือไม่ใช่ จริงหรือไม่จริง จนกระทั่งช่วงเช้าจึงให้คณะกรรมการเดินทางไปตรวจสอบที่ธนาคาร ธกส.ซึ่งเป็นธนาคารที่วัดได้เปิดบัญชีไว้ ผลการตรวจสอบปรากฏว่ามีการโอนเงินเข้ามาจริงในวัน เวลาดังกล่าว แต่ว่าทางเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าเงินที่โอนเข้ามาเป็นการโอนมาจากธนาคาร กสิกรไทย ไม่ใช่จากธนาคารออมสินอย่างที่ชายคนดังกล่าวส่งสลิปโอนเงินมาและชื่อคนโอนก็ไม่ใช่คนเดียวกัน แต่ยอดเงินเท่ากัน เวลาก็เวลาเดียวกันทางเราเกิดความสงสัยมากขึ้น ซึ่งเมื่อทราบว่าผิดปกติจึงได้ทักแชตกลับไปหาชายคนดังกล่าวแจ้งว่าสลิปท่านมีความผิดปกติ จากนั้นเขาก็ลบการเป็นเพื่อนออกไปเลย คงจะทราบว่าทางวัดเราไหวตัวทันจึงได้บล๊อคเฟสไปเลย จากกรณีดังกล่าวทางแอดมินเพจของทางวัดก็มีความสงสัยเช่นเดียวกันจึงได้ประสานแจ้งเข้ามาทางวัด อาตมาอยากจะฝากบอกกับบรรดาเหล่ามิจฉาชีพว่า วัดเรากำลังเดือดร้อนขาดปัจจัยในการก่อสร้างศาลาการเปรียญ อาตมาเสียความรู้สึกมากกับคนที่ฉวยโอกาสในวัดที่กำลังสมทบทุนปัจจัย อยากให้คนที่เป็นมิจฉาชีพอย่าทำแบบนี้เลยนอกจากจะเป็นอาชีพที่ทุจริตแล้วยังเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายด้วย แบะยังเป็นการเยียดเบียนคนอื่นด้วย ซึ่งอยากให้เป็นอุทธาหรณ์เตือนไปยังวัดอื่นๆหลายๆวัดซึ่งบางครั้งยังไม่ทราบว่าบุคคลที่โอนเงินเข้ามา และมาขอเงินคืนจะเป็นตัวจริงหรือตัวปลอมก็ขอให้ตรวจสอบให้ดีๆเพื่อป้องกันเหล่ามิจฉาชีพที่จะเข้ามาเหมือนดังวัดนี้ที่เกือบจะโดนหลอกลวง”

ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค  สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร

สนับสนุนข่าวโดย

1
2
3
4

8
9
10
12
15
17






คุณสามารถแบ่งปันเนื้อหานี้!

แสดงความคิดเห็น