You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.

กำแพงเพชร-ชาวบ้านโวย! โครงการปลูกป่าถึงทางตัน หลังจากยื่นหนังสือหาทางออกมาแล้วนับสิบปี พร้อมยอมติดคุกหากตัดแล้วโดนจับ สูญเงินกว่า 10 ล้านบาท
อาชญากรรม

กำแพงเพชร-ชาวบ้านโวย! โครงการปลูกป่าถึงทางตัน หลังจากยื่นหนังสือหาทางออกมาแล้วนับสิบปี พร้อมยอมติดคุกหากตัดแล้วโดนจับ สูญเงินกว่า 10 ล้านบาท


ที่สำนักงานสมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร นายเรืองเดช ร่วมชัยภูมิ อายุ 62 ปีอยู่บ้านเลขที่ 82 /1 หมู่2 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร พร้อมนายเกรียงไกร มั่งคั่ง อายุ 50 ปีบ้านเลขที่1 /11 หมู่2 ต.โป่งน้ำร้อน ได้เข้าร้องต่อสื่อมวลชนว่า พวกตนเองได้รับความลำบาก เดือดร้อนมาก อยากให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงถึงผู้เกี่ยวข้องได้ช่วยหาวิธีแก้ไขปัญหา เรื่องที่ภาครัฐได้ทำการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกป่าเพื่อเศรษฐกิจสร้างรายได้ โดยทีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยได้ปลูกไปแล้วตั้งแต่ปี2538 ขณะนี้ต้นสักที่ปลูก ต่างมีอายุไม่น้อยกว่า 27 ปีแล้ว ครั้นจะตัดก็ไม่สามารถตัดได้ ความฝันที่ทุกคนตั้งไว้มันกำลังจะพังลงโดยไม่มีใครหาทางออกได้เลย


นายเรืองเดช เล่าให้ฟังอีกว่า ก่อนหน้าชาวบ้านทั้งจังหวัดกำแพงเพชรนครสวรรค์ อุทัยธานีรวมถึงจังหวัดตาก ได้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมเกษตรกรปลูกป่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2538 โดยขึ้นทะเบียนที่ดินไว้เป็นหลักฐานกับสำนักงานปฏิรูปที่ดินกำแพงเพชรซึ่งไม่ว่าจะเป็นที่ดิน น.ส.3 โฉนด สปก.สทก.หรือ ภ.บ.ท.5 ซึ่งแต่ละแปลงในขณะนั้นจะได้รับงบประมาณจากภาครัฐสนับสนุนเป็นเงิน 3000 บาท โดยปีที่1 ป่าไม้จ่ายให้ ไร่ละ 800 บาทเพื่อเตรียมแปลงปลูกและค่าต้นกล้าไม้สักปีที่2 ป่าไม้จ่ายให้ไร่ละ 700 บาท ซื้อปุ๋ยบำรุงกล้าไม้ปีที่3จ่ายให้ 600 บาท ปีที่4 จ่าย 500 บาทและปีที่5 อีก400 บาทตามลำดับ จนครบ5 ปีซึ่งมีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลตรวจสอบอยู่ตลอด

ต่อมาจนกระทั่งปี 2556 ชาวบ้านได้เข้าไปติดต่อป่าไม้เพื่อขอขึ้น ทะเบียนสวนป่าทำค้อนตราประจำสวน ปรากฎว่าป่าไม้อนุญาตให้เฉพาะรายคนที่มี น.ส.3 โฉนด สปก.สทก.นิคมคลองสวนหมากเท่านั้น ส่วนผู้ที่มี ภบท.5 ไม่อนุญาตให้ตัดบอกว่าที่ดินไม่ถูกต้อง ทั้งที่มีการตรวจสอบแปลงปลูกยังได้รับการยืนยันว่าปลูกได้พร้อมกับได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐตามขั้นตอนมาโดยตลอด ปัจจุบันชาวบ้านต่างเดือดร้อนมากจะนำที่ดินไปปลูกอย่างอื่นเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวก็ไม่ได้ ทุกคนหวังว่าจะได้รับเงินจากการปลูกป่าไว้เลี้ยงครอบครัวและตนเอง คนแก่เฒ่าบางคนอายุมากก็ล้มหายตายจากไปแล้วก็มี ต้นพร้อมกับพวกได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรมไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดมาแล้ว3สมัย ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีเพื่อขอความเมตตาในการแก้ปัญหา แต่ทุกอย่างกลับเงียบสงบโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านแต่อย่างใด


ด้านนายเกรียงไกร มั่งคั่ง กล่าวว่าก่อนหน้าตนเอง ได้ทำไร่ปลูกมันปลูกข้าวโพดบนพื้นที่ 70 ไร่ ปีหนึ่งๆจะมีรายได้ประมาณ5-6แสนบาท วันนี้ผ่านมา 27 ปีแล้ว ถ้าปลูกมันข้าวโพดเหมือนเดิม ก็จะมีรายได้ไม่น้อยกว่า 15-16ล้าน กับการปลูกสักมา27ปีเช่นกัน หากขายได้วันนี้ละ4หมื่นบาท ก็จะได้เงิน2.8ล้านบาท หากคิดในแง่การลงทุน ชาวบ้านต่างสูญเสียรายได้ไปรายละหลายสิบล้านบาท อีกทั้งยังไม่สามารถตัดได้อีกด้วย จึงทำให้ตนเองและชาวบ้านอีกจำนวนไม่น้อยต่างเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น และสุดท้ายถ้าทุกอย่างไม่ไหวแล้วจริงๆ ตนเองพร้อมกับชาวบ้านพร้อมที่จะยอมติดคุกเพื่อที่จะตัดต้นไม้ที่ปลูกไปขายในเร็วๆนี้ แม้จะมีเจ้าหน้าที่ไปรอจับขณะที่โค่นก็ยอม

ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค  สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร

สนับสนุนข่าวโดย

1
2
3
4

8
9
10
12
15
17






คุณสามารถแบ่งปันเนื้อหานี้!

แสดงความคิดเห็น