You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.

กำแพงเพชร-หมอปลา/ทนายไพศาล ลงพื้นที่ช่วยลุงกอก อาการแปลกไม่อาบน้ำนาน 4 ปี หลังไปทำลายจอมปลวกในบ้าน และตามคืบหน้าคดี
สังคม

กำแพงเพชร-หมอปลา/ทนายไพศาล ลงพื้นที่ช่วยลุงกอก อาการแปลกไม่อาบน้ำนาน 4 ปี หลังไปทำลายจอมปลวกในบ้าน และตามคืบหน้าคดี


จากกรณีครอบครัวของ "นางสาว กุหลาบสี" อายุ 81 ปี หรือ ”ยายสาว” มารดาของ "นายทองอินทร์ สีขำ หรือ”ลุงล่อน” ที่ประสบอุบัติเหตุถูกรถหรูของไฮโซชื่อดังขับชนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.65 และมีภาพ "ยายสาว" นอนเฝ้าศพลูกชายหน้าโลงในวัด จนเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ โดยตลอดการจัดงานศพคู่กรณีได้ให้เงินช่วยเหลือมาเบื้องต้นเพียง 5,000 บาท และคดีดูท่าจะไม่คืบหน้า จนทางครอบครัวผู้เสียชีวิตได้ร้องขอให้ "กัน จอมพลัง" เดินทางมาติดตามคดีให้ และร้องขอหมอปลาให้เดินทางมาช่วยดูอาการของ "ลุงกอก" อายุ 52 ปี ที่มีอาการป่วยประหลาดไม่ยอมอาบน้ำนานถึง 4 ปี หลังไปขุดทำลายจอมปลวกภายในบ้าน ซึ่งครอบครัวเชื่อว่าเป็นอาถรรพ์จากสิ่งเร้นลับต้องพึ่งหมอปลาให้หาทางช่วยรักษา ซึ่งครอบครัวของ "ตาล่อน" ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนั้น ทำให้ขาดเสาหลักในการเลี้ยงดูครอบครัวไป ซึ่งผู้ตายนั้นมีอาชีพเก็บของเก่าขายมาเลี้ยงแม่ชรา และพี่ชายอีกหลายชีวิต โดยครอบครัวนี้นั้นมีตัวแทนของ "ส.ส.วัน อยู่บำรุง" ทีมงานใจถึงพึ่งได้ คอยดูแลตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่และจนถึงปัจจุบัน





ล่าสุดหลัง "กัน จอมพลัง" เดินทางมาตามคืบหน้าคดี ทางตำรวจก็รับปากจะเร่งส่งสำเนาคดีเพื่อฟ้องต่อศาลเรียกค่าเสียหายกับคู่กรณีภายใน 2 สัปดาห์ โดยหลังจาก "กัน จอมพลัง" ออกมาติดตามคืบหน้าคดีให้ คู่กรณีก็ได้เดินทางมามอบเงินเยียวยาอีก 100,000 บาท ส่วน "ลุงกอก" ลูกยายสาว ที่มีอาการป่วยประหลาดนั้น หมอปลารับปากจะเดินทางมาดูอาการและช่วยเหลือ ต่อมาเวลา 15.00 น. วันที่ 15 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังเก่าที่ครอบครัว "ยายสาว" ได้อาศัยที่ดินเพื่อนบ้านอยู่ ซึ่งปัจจุบันยายสาวก็ได้ย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่ผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินสร้างให้แล้ว เหลือแต่ "ลุงกอก" ลูกชายที่อาศัยอยู่เพิงเก่าๆ ไม่ยอมย้ายไปไหน ซึ่งไม่อาบน้ำนาน 4 เดือน ไม่มีกลิ่นตัว ไม่ยอมพูดกับใคร "นายสมศักดิ์ เปลี่ยนพิทักษ์" อายุ 43 ปี (อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.19 ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร (เพื่อนบ้านที่ให้พื้นที่พักอาศัย) ได้พาไปชี้จุดที่จอมปลวกขึ้นและถูกทำลายไป พบว่าไม่เหลือร่องรอยให้เห็นแล้ว เพราะได้รื้อทำลายและปลูกบ้านทับไปแล้ว และต่อมาได้รื้อบ้านออกไปอยู่ที่ใหม่ ซึ่งตอนที่ทำลายจอมปลวกแล้ว อาการของ "ตากอก" ก็เปลี่ยนไป



"นายสมศักดิ์ เปลี่ยนพิทักษ์" ยังเล่าอีกว่า "ตากอก" เดิมที่มีอาชีพรับจ้างก่อสร้างรับเหมาทั่วไป รับจ้างขัดเฟอร์นิเจอร์ กับลูกน้องหลายคน ซึ่งช่วงหลังเกิดไฟไหม้บ้านตรงจุดนี้ และมีการสร้างบ้านใหม่ที่เดิมและได้ขุดจอมปลวกออกไป หลังจากนั้นก็มีอาการแปลกไปทันที ซึ่งเปลี่ยนไปคนละคนเลย วิ่งหนีหายเข้าป่าในพื้นที่หายไปจนต้องไปตามหาและพากลับมาก็มีอาการแบบนี้จนถึงปัจจุบัน ขณะที่วันเดียวกัน "ยายสาว" ได้นอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในบ้านหลังใหม่ ซึ่งระหว่างที่รอ "หมอปลา" เดินทางมาถึง "ทนายไพศาล" ได้เดินทางมาถึงก่อนหน้าแล้วเพื่อจะสอบถามคืบหน้าคดีต่อว่าตำรวจทำไมถึงส่งสำนวนกับอัยการล่าช้าจากที่รับปาก "กัน จอมพลัง" ไว้ว่าจะไม่เกิน 2 สัปดาห์ ซึ่งขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเอกสารมาส่งให้กับครอบครัวยายสาวโดยในหนังสือได้แจ้งว่ามีการส่งสำนวนให้อัยการแล้วเมื่อวันที่ 9 ส.ค.65 ที่ผ่านมา แต่ทางตัวแทนของครอบครัวยายสาวที่รับมอบหมายให้ดูแลคดีนี้กลับได้รับการประสานว่าขอเลื่อนการส่งสำนวนให้อัยการไปอีก 1 สัปดาห์ หรือเพราะรู้ว่าวันนี้ "ทนายไพศาลและ หมอปลา" จะมาตามคืบหน้าคดีวันนี้เลยทำหนังสือแจ้งลงวันที่ 15 ส.ค.65 ว่าได้ดำเนินการแล้ว ต่อมาเวลา 17.00 น.


วันเดียวกัน "หมอปลา" ได้เดินทางมาถึง และเข้าไปพูดคุยกับ "ตากอก" ในเพิ่งพักเก่าๆ แต่ไม่ได้รับคำตอบใดๆ ซึ่งปกติรอบตัวที่ "ตากอก" อยู่จะมีมีดและไม่แหลมอยู่หลายอัน ซึ่งทีมงานได้เก็บออกไปแล้วกลัวว่าจะเป็นอันตราย จากนั้นได้ขอให้กู้ภัยฯ ในพื้นที่ช่วยกันจับ "ตากอก" ไปอาบน้ำ พบว่าดื้อขัดขืน และสุดท้ายก็ยอมให้อาบ ซึ่งสิ่งที่ทุกคนได้ยินคือตากอก ได้พูดคำสั้นๆออกมาให้ได้ยินบ้าง ซึ่งหมอปลาก็พยายามพูดคุยและจะชวนไปรักษาที่ จ.เพชรบุรี ซึ่งก็ทำท่าส่ายหน้าไม่ยอมไป โดยขณะนั้น "หมอปลา" ได้เข้าไปรื้อสิ่งของในเพิ่งพักของตากอก ว่ามีความผิดปกติใดๆหรือไม่ พบว่าไปพบ "ไม้แกะสลัก 2 อัน" ที่สงสัยว่าจะเป็นของเก่าที่ไปเก็บมาจากที่ใดสักแห่งและเป็นสาเหตุของอาการป่วย ไม่หน้าเกี่ยวกับจอมปลวกที่ไปทำลาย เพราะบางอย่างไปเก็บมาแล้วมันส่งผลกับคนที่อยู่ในบ้านและครอบครัว ยืนยันว่าเกี่ยวกับของเก่า ไม่เกี่ยวกับจอมปลวก ซึ่งอยากคุยกับญาติว่าจะรักษาไหม จะให้ไปรักษาที่ จ.เพชรบุรี จากนั้นจึงได้พา "ตากอก" ไปเจอกับ "ยายสาว" ผู้เป็นแม่ที่บ้านหลังใหม่ พบว่า "ยายสาว" มีอาการดีใจที่ได้เจอลูก เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ไปเจอลูกเลยแม้จะอยู่ในพื้นที่บ้านเดียวกัน "นายมงคล สีขำ" อายุ 63 ปี พี่ชายคนโตของ "ตาล่อน-ตากอก" เล่าว่า "เวลาที่ตนเองจะเข้าไปจับตัวน้องชายมาอาบน้ำ จะไม่ยอมเหมือนกลัวว่าตนเองจะเข้าไปเอาของอะไรบางอย่าง เหมือนหวงสมบัติอะไรบางอย่าง ตนเองจับอาบน้ำไปแล้ว 2 หนในเวลา 4 ปี ที่ผ่านมา และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 "หมอปลา" ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวต่ออีกว่า "อาการของลุงกอก" นั้น ตนเชื่อว่าต้องมีสิ่งที่เหนือธรรมชาติ ก็รอให้ครอบครัวตัดสิ้นใจว่าจะเอายังไงต่อ ตนสามารถรักษาให้ใช้ชีวิตเป็นปกติได้ แต่อยากให้ครอบครัวได้ดูแลก่อน เพราะตอนนี้อยู่กับแม่เขาแล้วอาจจะดีขึ้น ตนเชื่อว่าเป็นเรื่องอาถรรพ์จากของเก่า ที่ไปเอาของคนตายมาเก็บไว้และส่งผลให้คนในครอบครัวเปลี่ยนไปอย่างที่เห็น ส่วนแนวทางการรักษาของตนนั้นจะรักษาทั้งวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์ อยากให้ลุงกอกได้กำลังใจจากแม่ก่อน หากไม่ดีขึ้นจะพาไปอยู่ด้วยที่ จ.เพชรบุรี


"นายชัชชัย สาลีนาค" อายุ 37 ปี ผู้อุปการะครอบครัว”ยายสาว” กล่าวว่า "วันนี้ตนดีใจที่หมอปลาพร้อมทีมงานเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งคดี และอาการป่วย ซึ่งก็ได้จับอาบน้ำสำเร็จ ตอนแรกคิดว่าจะขัดขืน ส่วนคดีความนั้น ตอนแรกตนคิดว่าไม่คืบหน้ามีการเลื่อนการส่งสำนวนให้อัยการเพื่อส่งฟ้องเรียกค่าเสียหายกับคู่กรณี อยู่ๆวันนี้เจ้าหน้าที่ได้เอาหนังสือมาส่งและแจ้งว่าได้ส่งอัยการไปแล้ว เมื่อวันที่ 9 ส.ค.65 ที่ผ่านมา แต่บอกกับตนเองว่าขอเลื่อน ตนเองยังติดใจอยู่ว่าทำไมล่าช้า ซึ่งหลังจากนี้จะตามต่อในชั้นอัยการจนได้ความยุติธรรม ซึ่งวันนี้ทางเรื่องคดีและเรื่องอาการป่วยของคนในครอบครัวยายสาว ตนเองดีใจมากที่ทุกคนช่วยเหลือ ต้องขอบคุณสื่อมวลชนในท้องถิ่น อาสากู้ภัยฯ ชาวบ้านที่เข้ามาร่วมกันจนสำเร็จ

ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค  สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร

สนับสนุนข่าวโดย

1
2
3
4

8
9
10
12
15
16

17


คุณสามารถแบ่งปันเนื้อหานี้!

แสดงความคิดเห็น