You are using an outdated browser. Please upgrade your browser to improve your experience.

กำแพงเพชร-สาวเจอชายแสบโทรหลอกให้โอนเงินอ้างเอาไปช่วยญาติในเรือนจำ ผู้เสียหายเผยสูญเงินไปหลายหมื่น วันไหนลีลาไม่โอนให้เจอด่าแหลก แถมขู่พัวพันยาเสพติด เห็นท่าไม่ดีเข้าแจ้งความกับตำรวจ
อาชญากรรม

กำแพงเพชร-สาวเจอชายแสบโทรหลอกให้โอนเงินอ้างเอาไปช่วยญาติในเรือนจำ ผู้เสียหายเผยสูญเงินไปหลายหมื่น วันไหนลีลาไม่โอนให้เจอด่าแหลก แถมขู่พัวพันยาเสพติด เห็นท่าไม่ดีเข้าแจ้งความกับตำรวจ


เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก "น.ส.พัชริน แสงสว่าง" อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/1 ม.1 ต.แม่ลาด อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ว่ามีมิจฉาชีพโทรมาเเอบอ้างทำทีรู้จักกับแฟนหนุ่มของตน ซึ่งขณะนี้ต้องโทษอยู่ในเรือนจำกลางกำแพงเพชร โดยอ้างว่าเคยต้องโทษร่วมกันมาและพ้นโทษออกมาก่อน โดยมิจฉาชีพดังกล่าวได้อ้างว่าตนชื่อ "นายเก่ง" เป็นเพื่อนกับแฟนหนุ่มของตน จากนั้นพูดจาหว่านล้อมต่างๆนาๆ ว่าเคยช่วยเหลือแฟนหนุ่มครั้งอยู่ในเรือนจำด้วยกัน จากนั้นก็ได้มีการแอดเฟชบุ๊คพูดคุยกันโดยใช้ชื่อ "ระพิน ศรีวังพล" จากนั้นขอให้ตนเองโอนเงินอยู่เรื่อยๆ บ่อยครั้งรวมทั้งขอยืมเงินของตนเองด้วย โดยอ้างจะเอาไปให้แฟนหนุ่มของตนซึ่งอยู่ในเรือนจำโดยตนหลงเชื่อเริ่มโอนตั้งแต่ วันที่ 25 ก.ค.65 ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรก โดยแจ้งให้ตนเองโอนเงินจำนวน 2,000 บาท เพื่อที่จะนำไปดูแลแฟนของตนที่อยู่ในเรือนจำ ซึ่งมิจฉาชีพอ้างอีกว่ารู้จักกับคนในเรือนจำ สามารถนำเอาเงินดังกล่าวเข้าไปให้แฟนของตนเองได้ และขอให้ตนเองโอนเงินอยู่เรื่อยๆ ทั้งนี้ครั้งแรกที่โอนเงินให้ตนยอมรับว่าเชื่อในคำกล่าวอ้างของมิจฉาชีพ จึงโอนเงินไปให้ตามหมายเลขบัญชีที่แจ้งมาในช่องแชทเฟชบุ๊ค รวมทั้งหมด 4 ครั้ง (ครั้งที่ 1 จำนวน 2,000.- ครั้งที่ 2 จำนวน 20,000.- ครั้งที่ 3 จำนวน 14,000.- ครั้งที่ 4 จำนวน 5,300.-) รวมแล้วที่เสียเงินไปจำนวนทั้งหมด 41,300 บาท ซึ่งครั้งที่ 2-3 เป็นการโอนเงินให้มิจฉาชีพสามารถกดเงินสดออกมาผ่านแอพพลิเคชั่นของ ธ.กรุงไทย ที่ตู้ ATM ได้เลย โดยใช้รหัส OTP ส่งให้กับผู้รับเงินหน้าตู้ จากนั้นมิจฉาชีพได้แจ้งว่าเอาเงินบางส่วนที่ยืมไปซื้อยาบ้ามาขาย โดยกล่าวว่าจะเเบ่งเงินพิเศษเพื่อตอบแทนให้ ตนตกใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น กลัวจะโดนร่างแหร่วมขบวนการค้ายาเสพติดไปด้วย โดยมิจฉาชีพได้ข่มขู่ต่างๆนาๆและได้ส่งรูปยาเสพติดมาให้ตนดูในช่องแชทส่วนตัวว่ากำลังแพคยาเสพติดส่งขาย ตนเชื่อว่าโดนหลอกไปในทางที่ไม่ดีอย่างแน่นอน



หลังจากนั้นไม่นานมิจฉาชีพรายเดิมได้แชทมาในเฟชบุ๊คขอเงินอีก 2,000.- แต่ตนเองไม่มีเงินให้แล้ว จึงถูกมิจฉาชีพโทรมาด่าทออย่างหยาบคายทางโทรศัพท์ พร้อมข่มขู่ว่า ชื่อของตนเองจะเป็นผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วยหากถ้าพวกตนโดนจับ และจะให้คนข้างในเรือนจำทำร้ายแฟนหนุ่มของตนอีกด้วย (ซึ่งตนก็ได้อัดคลิปเสียงการสนทนาเอาไว้ โดยตนเชื่อว่าหน้าจะถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกเข้าแล้ว และได้เดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร เพื่อให้ตำรวจติดตามจับกุมตัวมิจฉาชีพรายนี้มาดำเนินคดี ซึ่งวันนี้ที่เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ตนได้โทรศัพท์ไปหามิจฉาชีพตามเบอร์ที่ให้ไว้อีกครั้ง แต่ปรากฎว่าติดต่อไม่ได้ และเฟสบุ๊คก็ถูกปิดไปแล้ว ซึ่งอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามคดีนี้เอาคนผิดมาลงโทษ และร้องขอให้สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวเป็นอุทาหรณ์เพื่อเตือนภัยต่อสังคมต่อไป ขณะที่

"นางอารียา เทียนเกตุแก้ว" อายุ 47 ปี (มารดาของ น.ส.พัชริน) กล่าวว่า "น้องสาวตนเองก็โดนลักษณะแบบเดียวกันนี้เหมือนลูกสาวเลย แต่ไม่ได้โอนเงินไปแต่อย่างใด ซึ่งก็อยากรู้ว่ามิจฉาชีพจะมีกลโกงแบบไหน ตนจึงให้น้องสาวพูดคุย ปรากฎว่าเหมือนลูกสาวของตนเองทุกอย่าง ทั้งเฟสบุ๊คที่แอดมา และเสียงทางโทรศัพท์ที่โทรมาคุยเหมือนกันทุกอย่าง ตนเลยให้น้องสาวของตนอัดเสียงเอาไว้ด้วย ขณะนั้นตนเองก็อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวกับน้องสาวเช่นกัน

ข่าว/ภาพ นายวิทยา จตุรภาค  สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร

สนับสนุนข่าวโดย

1
2
3
4

8
9
10
12
15
16

17


คุณสามารถแบ่งปันเนื้อหานี้!

แสดงความคิดเห็น